กษัตริย์กัมพูชาแต่งตั้ง ‘ฮุน มาเนต’ เป็นนายกรัฐมนตรี
|
7 สิงหาคม 2566 : กษัตริย์ของกัมพูชาทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพลเอกฮุน มาเนต ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการ สืบต่อจากนายกรัฐมนตรีฮุนเซน บิดาของเขาในปลายเดือนนี้ หลังพรรคของพวกเขาคว้าชัยในการเลือกตั้งฝ่ายเดียวเมื่อเดือนก่อน
พระราชกฤษฎีกาที่กษัตริย์สีหมุนีทรงลงพระปรมาภิไธยและเผยแพร่สู่สาธารณะทางสื่อสังคมออนไลน์ของรัฐ หมายความว่า ฮุน มาเนต วัย 45 ปี จะเป็นผู้นำคนใหม่อย่างเป็นทางการ และจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 22 ส.ค. เมื่อรัฐสภาชุดใหม่รับรองคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ฮุน มาเนต โพสต์ข้อความทางเทเลแกรมว่านับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย และนับเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของเขาที่จะได้รับใช้ประเทศและประชาชน และกล่าวเสริมว่าเขามุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่และให้สัญญาว่าจะยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชาและศักดิ์ศรีของประเทศต่อไป
การแต่งตั้งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ (5) การเลือกตั้งที่ให้อำนาจแก่พรรคของฮุนเซนต่อไปอีก 5 ปี ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลตะวันตกและกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่าไม่เสรีและไม่ยุติธรรม เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านที่น่าเชื่อถือถูกหันไม่ให้เข้าร่วมการเลือกตั้ง
ฮุน มาเนต ได้ที่นั่งในสภาเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งครั้งนี้ และการส่งต่ออำนาจจากพ่อของเขาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนรุ่น ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอายุน้อยหลายคนคาดว่าจะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงลูกชายคนเล็กของฮุนเซนและคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกพรรคที่มีอายุมากกกว่า
หลายคนได้รับการศึกษาจากตะวันตก เช่นฮุน มาเนต ที่จบปริญญาตรีจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์ในสหรัฐฯ ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบริสตอล ในอังกฤษ ในสาขาเศรษฐศาสตร์ทั้ง 2 แห่ง
หลังจากมีพระราชกฤษฎีกา ฮุนเซนได้โพสต์ข้อความทางเทเลแกรมและทวิตเตอร์ว่าเขากำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งเพื่อให้โอกาสผู้สืบทอดเป็นผู้นำประเทศ
ฮุนเซน ที่มีอายุครบ 71 ปีเมื่อวันเสาร์ (5) ระบุว่าเขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำเมื่ออายุ 32 ปี ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกในขณะนั้น เขาเสริมว่าการก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ใช่จุดสิ้นสุด ซึ่งเขาจะดำรงตำแหน่งอื่นไปอย่างน้อยจนถึงปี 2576
ฮุนเซนถูกคาดหมายว่าจะยังคงมีอำนาจควบคุมอยู่มากในฐานะประธานพรรคประชาชนกัมพูชาและประธานวุฒิสภา
“ผมจะยังสามารถรับใช้ประชาชนและช่วยรัฐบาลดูแลความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประชาน ตลอดจนทำงานร่วมกับพวกเขาชี้นำการพัฒนาประเทศได้” ฮุนเซนกล่าวเมื่อวันที่ 26 ก.ค.
กัมพูชาภายใต้การปกครองของฮุนเซนใช้ระบบเศรษฐกิจตลาดเสรียกระดับมาตรฐานการครองชีพ แต่ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนของกัมพูชาขยายกว้างขึ้น การตัดไม้ทำลายป่าแพร่กระจายในระดับที่น่าตกใจ และการขยายวงกว้างของการแย่งชิงที่ดินของพันธมิตรภายในประเทศของฮุนเซนและนักลงทุนต่างชาติ
หลังการท้าทายการเลือกตั้งอย่างแข็งแกร่งจากพรรคฝ่ายค้านในปี 2556 ที่พรรคประชาชนกัมพูชาเกือบเอาชนะไม่ได้ ฮุนเซนได้พุ่งเป้าไปที่ผู้นำฝ่ายค้าน และพรรคฝ่ายค้านหลักถูกศาลสั่งยุบพรรค และในปีนี้ รูปแบบของการปราบปรามฝ่ายค้านก็เกิดซ้ำอีก ที่ทำให้ผู้ท้าชิงหลักไม่สามารถร่วมการเลือกตั้งได้
สหภาพยุโรปกล่าวว่า การเลือกตั้งดำเนินการในพื้นที่ทางการเมืองและพลเมืองอย่างจำกัด ที่ฝ่ายค้าน ภาคประชาสังคม และสื่อไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยปราศจากอุปสรรค
สหรัฐฯ ระบุว่าจะดำเนินการกำหนดข้อจำกัดด้านวีซ่ากับบุคคลที่บ่อนทำลายประชาธิปไตยและดำเนินการระงับโครงการความช่วยเหลือต่างประเทศชั่วคราว หลังพิจารณาว่าการเลือกตั้งไม่เสรีและไม่ยุติธรรม. |
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน