 กัมพูชาย้ายตัวผู้นำเขมรแดง จากห้องขังศาลไปจำคุกตลอดชีวิตในเรือนจำรัฐ
|
2 กุมภาพันธ์ 2566 : เคียว สัมพัน ที่ศาลซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติตัดสินความผิดในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงคราม จากบทบาทของเขาในฐานะผู้นำระบอบเขมรแดงคอมมิวนิสต์ ที่ปกครองกัมพูชาระหว่างปี 2518-2522 ถูกย้ายตัวจากคุกของศาล ไปรับโทษจำคุกตลอดชีวิตที่เรือนจำของรัฐ
เคียว สัมพัน อายุ 91 ปี เป็นผู้นำเขมรแดงคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งนโยบายสุดโต่งของเขมรแดงถูกกล่าวโทษว่าเป็นสาเหตุให้ประชาชนราว 1.7 ล้านคนเสียชีวิตในตอนที่พวกเขากุมอำนาจ
การย้ายตัวเคียว สัมพัน มีขึ้นในขณะที่ศาลแห่งนี้กำลังลดกิจกรรมลงหลังพิจารณาคดีสุดท้ายในเดือน ก.ย. ซึ่งศาลได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์สุดท้ายของเคียว สัมพัน
ศาลที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนแห่งนี้เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างนักกฎหมายกัมพูชาและนานาชาติ ที่ใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 337 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลา 16 ปี
เนธ เพียกตรา โฆษกศาล ระบุว่า ศาลได้ส่งมอบหมู่อาคารที่รวมถึงสถานที่คุมขังให้กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่เป็นเจ้าของเดิมของสถานที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. และศาลจะทำงานต่อไปอีก 3 ปี หลังจากงานด้านเอกสารจดหมายเหตุและให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการพิจารณาคดีสิ้นสุดลง โดยพนักงานที่เหลืออยู่จะย้ายไปอาคารหลังใหม่กลางเมืองหลวง
เคียว สัมพัน เป็นประมุขแห่งรัฐของเขมรแดง แต่การพิจารณาคดีของเขา เขาปฏิเสธว่าเขาไม่มีอำนาจในการตัดสินใจอย่างแท้จริงในขณะที่เขมรแดงปกครองประเทศด้วยความหวาดกลัวในความพยายามที่จะสร้างสังคมเกษตรกรรมแบบอุดมคติ แต่กลับก่อให้เกิดการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากจากการประหาร ความอดอยาก และการดูแลรักษาพยาบาลที่ไม่เพียงพอ เขมรแดงถูกขับออกจากอำนาจในปี 2522
เคียว สัมพัน ถูกตัดสินว่ามีความผิดในปี 2561 และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ก่อนหน้านี้เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่งจากข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโยกย้ายและการหายตัวของผู้คนจำนวนมาก
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าในตอนนี้ เคียว สัมพัน ถูกขังอยู่ที่เรือนจำ จ.กันดาล และแยกห้องขังจากผู้ต้องขังรายอื่นเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของเขา
เคียว รัตนา ลูกสาวของเคียว สัมพัน กล่าวว่าพ่อของเธอแข็งแรงดีและไม่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการย้ายสถานที่คุมขัง เนื่องจากเรือนจำ จ.กันดาล ใช้เวลาเดินทางจากใจกลางกรุงพนมเปญพอๆ กับสถานที่คุมขังของศาล. |
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน
