header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

มาเลเซียวุ่น! พรรคอัมโนประกาศถอนการสนับสนุนนายกฯ ‘มูห์ยิดดิน’

ASEAN News

8 กรกฎาคม 2564 : พรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่สุดในรัฐบาลผสมมาเลเซีย ประกาศถอนการสนับสนุนนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน และเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบการบริหารจัดการโควิด-19 ที่ล้มเหลว

ล่าสุดยังไม่มีท่าทีใดๆ จากทางผู้นำเสือเหลือง แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่ามูห์ยิดดินคงจะรั้งเก้าอี้นายกฯ ต่อไปได้อีกไม่นานนัก

รัฐบาลมาเลเซียตกอยู่ในภาวะระส่ำระสายมานานหลายเดือน โดยนอกจากจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเพียงฉิวเฉียดแล้ว ยังมีความขัดแย้งภายในระหว่างกลุ่มขั้วการเมืองต่างๆ ด้วย

แรงกดดันทางการเมืองยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมโควิด-19 เมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งส่งผลให้การประชุมสภาถูกระงับ ขณะที่นักวิจารณ์บางคนมองว่ามูห์ยิดดิน กำลังใช้วิกฤตโรคระบาดมาเป็นข้ออ้างเพื่อยื้ออำนาจ

หลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้บริหารพรรคซึ่งกินเวลายืดเยื้อไปจนถึงช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (8) พรรคอัมโนจึงได้ออกประกาศถอนการสนับสนุนนายกรัฐมนตรี โดย อะหมัด ซาฮิด ฮามิดี ประธานพรรคอัมโน ระบุว่า “พรรคอัมโนขอวิงวอนด้วยความเคารพให้นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน สละตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศแทนชั่วระยะเวลาหนึ่ง”

เขาระบุด้วยว่า นายกฯ คนใหม่จะเป็นผู้นำพาประเทศฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ก่อนจะมีการจัดเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง

“เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องเปิดทางไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ และได้รับอาณัติจากประชาชนอย่างแท้จริง” เขากล่าว

ประธานพรรคอัมโนยังได้แจกแจงความผิดพลาดต่างๆ นานาของมูห์ยิดดิน ซึ่งรวมถึงแนวทางการรับมือโควิด-19 ที่ไร้ประสิทธิภาพ และไม่ได้ให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์

มูห์ยิดดิน ซึ่งเป็นผู้นำพรรคเบอร์ซาตู (Bersatu) ก้าวสู่ตำแหน่งนายกฯ มาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นผลสืบเนื่องจากความปั่นป่วนทางการเมืองที่ทำให้อดีตนายกฯ มหาเธร์ โมฮาหมัด สละตำแหน่งอย่างกะทันหัน

ทั้งนี้ พรรคอัมโนถือเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของรัฐบาล เนื่องจากมี ส.ส.อยู่ถึง 38 คนจากจำนวน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 115 คน โดยกลุ่มการเมืองหนึ่งๆ จำเป็นจะต้องได้ที่นั่ง ส.ส.ถึง 112 คนเพื่อครองเสียงข้างมากในสภา

อย่างไรก็ดี ภายในพรรคอัมโนเองก็มีความแตกแยก เพราะในขณะที่ ส.ส.บางคน เช่น ซาฮิด ต้องการขับไล่นายกฯ แต่ก็มี ส.ส.อีกบางคนที่ยังพร้อมหนุนหลังรัฐบาลอยู่

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ซาฮิดประกาศถอนการสนับสนุน มูห์ยิดดินก็แก้เกมด้วยการเลื่อนตำแหน่งให้แก่ 2 สมาชิกคนสำคัญของพรรคอัมโน โดย อิสมาอีล ซาบรี ยาโกบ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีอาวุโส

เจมส์ ชิน ผู้เชี่ยวชาญด้านมาเลเซียจากมหาวิทยาแทสเมเนีย ชี้ว่า มูห์ยิดดิน “เลือกที่จะสู้เพื่อรักษาฐานอำนาจทางการเมืองของตนเอง และทำให้พรรคอัมโนเกิดความแตกแยกรุนแรงขึ้น”

“เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยื้ออำนาจต่อไป”

 

ศิวามูรูกัน ปันเดียน อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Universiti Sains Malaysia มองว่าความไม่เป็นเอกภาพของคนในพรรคอัมโนคือปัจจัยที่ช่วยให้มูห์ยิดดินมีเวลาคิดไตร่ตรองว่าจะก้าวเดินต่อไปอย่างไร

มูห์ยิดดินรับปากจะเปิดประชุมสภาในวันที่ 26 ก.ค. ก่อนที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะสิ้นอายุลงในเดือน ส.ค. ท่ามกลางแรงกดดันจากสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย รวมถึงความไม่พอใจของประชาชนต่อสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการประชุมนั้นสั้นเพียงแค่ 5 วัน และนักวิเคราะห์เชื่อว่าคราวนี้มูห์ยิดดินก็คงจะรอดจากการถูกลงมติไม่ไว้วางใจอีกเช่นเคย


แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน