 รัฐบาลทหารพม่าสั่งห้ามผู้บริหารค่ายมือถือออกนอกประเทศ
|
5 กรกฎาคม 2564 : ผู้บริหารระดับสูงชาวต่างชาติของบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ในพม่าได้รับแจ้งจากรัฐบาลทหารว่า พวกเขาไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้หากไม่ได้รับอนุญาต บุคคลที่ทราบเรื่องดังกล่าวโดยตรงเผยกับรอยเตอร์
คำสั่งลับจากกรมไปรษณีย์และโทรคมนาคม (PTD) ของพม่าเมื่อกลางเดือน มิ.ย. ระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงทั้งชาวต่างชาติและชาวพม่าต้องขออนุญาตเป็นพิเศษในการเดินทางออกนอกประเทศ
ในอีกสัปดาห์ต่อมา บริษัทโทรคมนาคมได้รับจดหมายฉบับที่ 2 ที่แจ้งกับพวกเขาว่า พวกเขามีเวลาถึงวันที่ 5 ก.ค. ในการเริ่มใช้งานเทคโนโลยีแทรกแซงให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่ถูกขอให้ติดตั้ง เพื่อให้ทางการสามารถสอดแนมการโทร. ข้อความและการใช้งานเว็บไซต์ และติดตามผู้ใช้งานได้ด้วยตัวเอง แหล่งข่าวระบุ แต่รอยเตอร์ไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว
คำสั่งเหล่านี้มีขึ้นหลังรัฐบาลทหารที่กำลังเผชิญกับการชุมนุมประท้วงรายวันจากฝ่ายตรงข้ามและเหตุความไม่สงบที่ขยายตัวมากขึ้น กดดันให้บริษัทต่างๆ ใช้งานเทคโนโลยีสปายแวร์
ทั้งนี้ โฆษกกองทัพไม่ได้ตอบคำร้องขอความเห็นจากรอยเตอร์ ส่วนรัฐบาลทหารที่ไม่เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับความพยายามตรวจตราด้วยอิเล็กทรอนิกส์ กลับประกาศไม่นานหลังยึดอำนาจว่า มีเป้าหมายที่จะผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องให้ข้อมูลเมื่อถูกร้องขอ และลบหรือบล็อกเนื้อหาใดๆ ก็ตามที่เห็นว่าขัดขวางความสามัคคี เสถียรภาพ และความสงบสุข นอกจากนี้ ยังแก้ไขกฎหมายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้กองกำลังความมั่นคงสามารถเข้าขัดขวางการสื่อสารได้
แหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัยระบุว่า คำสั่งห้ามการเดินทางเป็นการกดดันให้บริษัทโทรคมนาคมดำเนินการติดตั้งเทคโนโลยีสปายแวร์ให้เสร็จสิ้น แม้ว่าในคำสั่งเองจะไม่ได้ระบุถึงเหตุผลก็ตาม
แหล่งข่าวด้านโทรคมนาคมอีก 3 ราย ระบุว่าเจ้าหน้าที่เพิ่มแรงกดดันกับบริษัทต่างๆ ให้ดำเนินการการแทรกแซงดังกล่าว ส่วนแหล่งข่าว 2 ราย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารได้เตือนบริษัทซ้ำหลายครั้งว่าไม่ให้พูดกับสาธารณชนหรือกับสื่อเกี่ยวกับการแทรกแซงนี้
ทั้งนี้ บริษัทเทเลนอร์ (Telenor) ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น และยังไม่มีการตอบสนองต่อคำร้องขอความเห็นจากบริษัทอูรีดู (Ooredoo) บริษัท MPT ของรัฐ และบริษัท Mytel ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท Viettel ของเวียดนามและบริษัทในเครือกองทัพพม่า
หลายเดือนก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตได้รับคำสั่งให้ติดตั้งสปายแวร์ เพื่อให้กองทัพสามารถดักฟังการสื่อสารของประชาชนได้ ตามที่รอยเตอร์ได้รายงานไปเมื่อเดือน พ.ค. แต่รอยเตอร์ไม่สามารถระบุได้ว่าเทคโนโลยีเฝ้าระวังถูกติดตั้งและใช้งานอย่างกว้างขวางเพียงใด แต่แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทเทเลนอร์ เอเอสเอ ของนอร์เวย์ และบริษัทอูรีดู คิวพีเอสซี ของกาตาร์ ยังปฏิบัติตามคำสั่งไม่ครบถ้วน
การดำเนินการครั้งแรกของกองทัพเมื่อวันที่ 1 ก.พ. คือการตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และบล็อกเว็บไซต์และเบอร์โทรศัพท์ของนักเคลื่อนไหว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้อนาคตของภาคโทรคมนาคมของพม่าไม่ชัดเจน โดยบริษัทเทเลนอร์กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า บริษัทกำลังประเมินอนาคตการดำเนินงานในประเทศ ซึ่งแหล่งข่าวเผยกับรอยเตอร์ว่าบริษัทกำลังพิจารณาที่จะขายกิจการในพม่า.
|
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน
