header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

อดีต ปธน.‘เบนิโญ อากีโน’ แห่งฟิลิปปินส์ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 61 ปี

ASEAN News

24 มิถุนายน 2564 : สื่อท้องถิ่นรายงานว่า อากีโน ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตประธานาธิบดีหญิง คอราซอน อากีโน และวุฒิสมาชิก เบนิโญ ‘นินอย’ อากีโน สองนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยฟิลิปปินส์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แคปิตอล เมดิคัล เซ็นเตอร์ ในกรุงมะนิลาเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) ก่อนจะเสียชีวิตลงอย่างสงบ โดยยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการตายที่แน่ชัด

มาร์วิก ลีโอเนน ผู้พิพากษาศาลสูงสุดฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดย อากีโน เมื่อปี 2012 ได้ออกมาแถลงไว้อาลัยการจากไปอย่างกะทันหันของอดีตผู้นำ

“ผมทราบข่าวด้วยความเศร้าเสียใจยิ่งว่าอดีตประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน ได้จากพวกเราไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา... ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสทำงานกับท่าน และจะรำลึกถึงท่านตลอดไป” คำแถลงระบุ

ทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ทวีตข้อความอาลัยต่อการจากไปของ อากีโน โดยยกย่องอดีตผู้นำรายนี้ว่า “เป็นคนกล้าหาญไม่หวั่นเกรงต่ออาวุธ ไม่หลงใหลในอำนาจวาสนา และปกครองประเทศด้วยความสุขุมเยือกเย็นจนหลายคนรู้สึกประหลาดใจ แต่นั่นเป็นเพราะท่านไม่แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา จนทำให้ผู้คนคิดกันไปเองว่าท่านไม่รู้สึกอะไร”

อากีโน หรือที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกกันติดปากว่า “นอยนอย” เกิดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ปี 1960 ในครอบครัวนักการเมืองซึ่งมีฐานะมั่งคั่งและเป็นเศรษฐีที่ดิน

อากีโน ตัดสินใจลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในปี 2010 หลังจากที่ นางคอราซอน ผู้เป็นมารดาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปีก่อนหน้า และศึกชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 15 ของฟิลิปปินส์

 

รัฐบาล อากีโน ซึ่งบริหารประเทศในช่วงปี 2010-2016 มีผลงานเด่นในด้านการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน และให้คำมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาความยากจนที่บั่นทอนวิถีชีวิตประชากรราว 1 ใน 3 ของฟิลิปปินส์

นโยบายเศรษฐกิจของ อากีโน ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ มีอัตราขยายตัวเฉลี่ยปีละกว่า 6.0% ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา และยังทำให้แดนตากาล็อกถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ “น่าลงทุน” แม้ว่าปัญหาความยากจนจะยังไม่หมดไปก็ตาม

ชื่อเสียงของตระกูลอากีโนถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองของฟิลิปปินส์ผ่านโศกนาฏกรรม โดยบิดาของเขา “นินอย” อากีโน ถูกลอบสังหารที่สนามบินมะนิลาในปี 1983 เพียงไม่นานหลังพาครอบครัวกลับจากการลี้ภัยในสหรัฐฯ

การเสียชีวิตของ นินอย ถือเป็นเหตุการณ์ช็อกโลก และทำให้เกิดขบวนการปฏิวัติ “พลังประชาชน” โค่นรัฐบาลเผด็จการของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ลงได้สำเร็จ ก่อนที่ นางคอราซอน ภรรยาม่ายของเขาจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจาก มาร์กอส ในปี 1986

ในด้านนโยบายต่างประเทศ รัฐบาล อากีโน ได้เดินหน้าท้าชนจีนในประเด็นข้อพิพาททะเลจีนใต้ โดยมีการยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่กรุงเฮก เพื่อคัดค้านการอ้างอธิปไตยของจีน กระทั่งศาลได้มีคำตัดสินเมื่อปี 2016 ว่าปักกิ่งไม่สามารถนำข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาอ้างสิทธิครอบครองทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดได้ แต่ทว่าจีนไม่ยอมรับคำพิพากษานี้

อากีโน มีพี่น้องหญิงทั้งหมด 4 คน ซึ่งล้วนแต่ยังมีชีวิตอยู่ และแม้จะครองสถานะ “โสด” มาตลอดชีวิต แต่มีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการกับผู้หญิงหลายคน ทั้งดารา, นักข่าว หรือแม้กระทั่งอดีตนางงามจักรวาล

แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน