พิษโควิด-19 ทำ ศก.อินโดนีเซีย ‘ถดถอย’ ครั้งแรกในรอบ 22 ปี
|
5 พฤศจิกายน 2563 : เศรษฐกิจอินโดนีเซียเข้าสู่ภาวะถดถอย (recession) ครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ในไตรมาส 3 ปีของนี้ สืบเนื่องจากผลพวงของโรคระบาดโควิด-19 ที่บั่นทอนการบริโภคและกิจกรรมทางธุรกิจในประเทศ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน
สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเผยตัวเลขจีดีพีในช่วงเดือน ก.ค.- ก.ย. ที่ผ่านมา หดตัว 3.49% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ซึ่งลดลงกว่าปีที่แล้วถึง 5.32%
จากสถิตินี้ถือได้ว่าเศรษฐกิจแดนอิเหนาส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคเป็นครั้งแรก หลังวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 1997-1998
อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมประมาณ 422,000 คน สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และคาดว่า สถานการณ์โรคระบาดใหญ่จะทำให้มีคนตกงานมากถึง 3.5 ล้านคน ภายในปีนี้ แม้รัฐบาลและธนาคารกลางจะพยายามออกมาตรการบรรเทาผลกระทบแล้วก็ตาม
ซูฮารียันโต ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้แจงว่า ถึงแม้จีดีพีรายไตรมาสจะหดตัวลงเมื่อเทียบปีต่อปี ทว่า เศรษฐกิจแดนอิเหนาในไตรมาส 3 ก็เริ่มปรากฏสัญญาณฟื้นตัวในทุกๆ ภาคส่วน เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
แม้ภาคเกษตรกรรมจะเป็นองค์ประกอบหลักของระบบเศรษฐกิจ แต่อินโดนีเซียก็พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเกาะบาหลี ซึ่งในปี 2019 มีชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนมากกว่า 6.2 ล้านคน ทว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวบาหลีลดลงเหลือแค่ราวๆ 800,000 คนในครึ่งปีแรก
ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ยืนยันว่า รัฐบาลจะอัดฉีดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีไตรมาสปัจจุบัน ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีแผนปรับลดอัตราดอกเบี้ยและใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมไปจนถึงปี 2021
|
แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : เมเนเจอร์ |
กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน