header-photo
 

ข่าวสารอาเซียน (ASEAN News)

 

ปธน.อินโดนีเซีย"ขอโทษ"มาเลย์-สิงคโปร์ เรื่องหมอกควันพิษจากไฟป่าสุมาตรา
 

29 มิถุนายน 2556 : ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ออกมาขอโทษต่อประชาชนชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ที่ต้องถูกรบกวนจากหมอกควันพิษจากการเผาป่าของเกษตรกร ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อดับไฟป่าให้เร็วที่สุด พร้อมสั่งการให้สอบสวนหาตัวผู้เผาป่ามาลงโทษ

ควันพิษจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราส่งผลให้เกิดหมอกควันปกคลุมทั่วสิงคโปร์และบางส่วนของมาเลเซีย ทำให้ค่าเฉลี่ยมลพิษในสองประเทศขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้โรงเรียนมากกว่า 200 แห่งในมาเลเซีย ต้องปิดการเรียนการสอน หลายฝ่ายออกมากล่าวโทษว่าเกิดจากการลักลอบผาป่าของเกษตรกรเพื่อนำไปทำเป็นสวนปาล์มน้ำมัน

นายยูโดโยโน กล่าวผ่านแถลงการณ์ในช่วงค่ำวานนี้ว่า ในฐานะประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เขาขอขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และร้องขอให้ประชาชนชาวมาเลเซียและสิงคโปร์เข้าใจ พร้อมยอมรับว่าเป็นความรับผิดชอบของอินโดนีเซีย ที่จะต้องจัดการปัญหานี้ และเสริมว่าทางการจะสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว และย้ำว่า ไฟป่าบนเกาะสุมาตรามีทั้งเกิดเองตามธรรมชาติและจากน้ำมือมนุษย์

ผลจากหมอกควันไฟป่า ก่อให้เกิดผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามประเทศ โดยแต่ละรัฐบาลต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นต้นเหตุของไฟป่า โดยเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียชี้ว่าบริษัทจากมาเลเซียและสิงคโปร์ที่เข้าไปทำธุรกิจปาล์มน้ำมัน ควรร่วมแสดงความรับผิดชอบด้วย

ผลกระทบของหมอกควันพิษทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ต้องแนะประชาชนให้อยู่แต่ในบ้านหลังปริมาณมลพิษในอากาศของสิงคโปร์อยู่ในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำลายสถิติสูงสุดที่ระดับ 401 พีเอสไอ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้สูงอายุ

ด้านรัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ซึ่งถูกหมอกควันพิษเข้าปกคลุม มีรายงานว่าตำรวจอินโดนีเซียได้จับกุมเกษตรกร 2 คนบนเกาะสุมาตราข้อหาจุดไฟเผาป่าเพื่อปรับพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกในฤดูกาลใหม่ ซึ่งเป็นรายแรกนับแต่เกิดปัญหาไฟป่าคุกคามสวัสดิภาพของประชาชนในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมยืนยันว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัท 8 แห่งที่ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังไฟป่าที่เกิดขึ้น แม้บริษัทแม่ที่อยู่ในมาเลเซียจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้วก็ตาม ตามกฎหมายของอินโดนีเซีย บริษัทหรือบุคคลใดจุดไฟเผาป่าโดยผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีและปรับ 5 พันล้านรูเปียห์ (ราว 15 ล้านบาท)

แหล่งข้อมูล ภาพและข่าว : มติชน

 

 

กลับหน้าหลัก ข่าวสารอาเซียน